Theresa May said

ถูกแชร์ทั้งหมด
แชร์เรื่องนี้ ทวีตเรื่องนี้ อีเมล์more
ส่องความน่ารัก ริกะ-ริโกะ ฝาแฝด เต้นเพลง PPAP


สนับสนุนเนื้อหา


Thier name: Rika & Riko


ช่วงนี้กระแสเพลง เพลง PPAP หรือชื่อเต็มๆ ว่า Pen-Pineapple-Apple-Pen กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง จนหนุ่มสาวทั้งญี่ปุ่นแห่เต้นตามกันเป็นทิวแถว แต่ที่เวอร์ชั่นที่น่ารักจนเตะตาหนุ่มๆ ไทย เห็นทีจะเป็นการเต้นของสองสาวหน้าแบ๊ว ริกะ-ริโกะ

กลายเป็นเพลงฮิตชั่วข้ามคืนที่มีคนนำไปคัฟเวอร์กันมากมาย แต่เวอร์ชั่นที่ดูแล้วจะได้รับความสนใจมากที่สุดโดยเฉพาะหนุ่ม ๆ นั่นคือ การคัฟเวอร์โดยฝาแฝดสาวชาวญี่ปุ่น Rika และ Riko Ichinose วัย 16 ปี เน็ตไอดอลและนางแบบประจำเว็ปไซต์แฟชั่น "GF" ( girlsf.jp ) ซึ่งหลังพวกเธอลงคลิปไปไม่นาน ก็มียอดวิวทะลุ 1 ล้านครั้งอย่างรวดเร็ว เพราะความสดใสน่ารักที่ดูยังไงก็ดีต่อใจเหลือเกิน



งานนี้นอกจากชมลีลาการเต้น มาชมภาพความน่ารักของฝาแฝดคู่นี้กัน บอกเลยว่า ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน

เซ็กซี่คูณสอง นุ๊กซี่ - ฟ้า พริตตี้สาวเพื่อนซี้ในชุดว่ายน้ำ


สนับสนุนเนื้อหาJav Bukkake








ซัมเมอร์นี้ระอุอีกแล้วเมื่อสาวๆ พากันแชร์ภาพชุดว่ายน้ำ พาให้หนุ่มๆ ได้ชุ่มชื่นหัวใจ โดยเฉพาะเหล่าคนดังอย่าง สองสาวเพื่อนซี้ น้องนุ๊กซี่ – น้องฟ้า ที่เสริฟสวยๆ ให้หนุ่มๆ ได้ชมกันเป็นระยะ โดยเฉพาะชุดว่ายน้ำ



สำหรับ ฟ้า ปัญชลีย์ หรือเจ้าของฉายานางฟ้าวงการพริตตี้ นอกจากเป็นพริตตี้ที่มีงานชุก และติดอันดับท็อปพริตตี้เสมอๆ เธอคนนี้ยังมีเสน่ห์สุดๆ เรียกว่าขยับตัวสองสามทีก็ทำให้หนุ่มๆ หัวใจว้าวุ่นได้เลย สำหรับสัดส่วนของฟ้าคือ 35-25-36 สูง 168 ด้านความนิยมในโลกโซเชียลก็ต้องบอกว่าเธอมีหนุ่มๆ รู้จักเกือบทั้งประเทศ โดยในอินสตาแกรมมียอดติดตามสูงถึงหลังล้าน



ด้าน นุ๊กซี่ อัญพัชญ์ เป็นพริตตี้ที่มีงานทั้งมอเตอร์โชว์และงานถ่ายแบบมากมาย โดยเกือบทุกปีสาวคนนี้จะติดอันดับพริตตี้ที่มีค่าตัวสูง และถูกโหวตให้เป็นพริตตี้ขวัญใจหนุ่มๆ เรื่อยมา ด้านสัดส่วนนุ๊กซี่สูง 170 ซม. สัดส่วน 35-25-36 นอกจากงานในวงการพริตตี้ สาวคนนี้ยังมีชื่อเสียงเทียบได้กับเน็ตไอดอล เพราะปัจจุบันเธอมีแฟนๆ เข้าไปติดตามในอินสตาแกรมส่วนตัวแล้วกว่า 1 ล้าน 3 แสนคน

ก็ สวย เซ็กซี่ มีเสน่ห์กันขนาดนี้ ไม่ต้องแปลกใจครับ ว่าทำไมใครๆ ก็หลงรักสองสาวคนนี้

ซูมความเซ็กซี่ เพลย์บอย บันนี่ โรลี่ป๊อป.


สนับสนุนเนื้อหา




Bunny Rollipop - Onanong Wongsila

หากใครที่ติดตามนิตยสาร PLAYBOY Thailand อย่างต่อเนื่องคงคุ้นหน้าคุ้นตาเธอมาบ้าง โดยเฉพาะเมื่อปีที่แล้ว ‘Bunny Rollipop - อรอนงค์ วงษ์ศิลา’ ยังเป็นสาว Playgirl ของเราอยู่เลย แต่มาปีนี้เธอสวยสะพรั่งนั่งเก้าอี้ในตำแหน่งบันนี่ปี 2017 ซ่ะแล้ว

เธอเล่าถึงความรู้สึกของการเป็นบันนี่ว่าแตกต่างจากเพลย์เกิลล์ตรงที่ “เพลย์เกิลล์ดูเป็นเด็กสาวที่ยังไม่โต ยังรักสนุกอยู่ ซึ่งแตกต่างจากการเป็นบันนี่ที่อัพเลเวลไปอีกขั้น อันนี้พูดถึงคอนเซปต์ของคอลัมน์นะ แต่ถ้าพูดถึงการเป็นบันนี่ในฐานะที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเพลย์บอย ไทยแลนด์แล้ว มันต้องมีความเป็นมืออาชีพมากกว่า เพราะแค่เริ่มต้นก็ได้ขึ้นปกแล้ว” ผมแอบสำรวจเรือนร่างเธอเงียบๆ ผู้หญิงอะไรทุกอย่างดูชวนมองไปซ่ะทุกอย่าง แล้วไหนจะรอยยิ้มนั่นอีก ก็เวลาที่เธอยิ้มทีโลกดูสว่างไสวไปหมดเลยPorn Facials

Bunny Rollipop เล่าถึงสิ่งที่ทำให้อยากเข้ามาเป็นบันนี่ว่า “มีรุ่นพี่ที่รู้จักเป็นบันนี่อยู่แล้วแล้วเราเห็นเค้าใส่ชุดกระต่ายน่ารักๆ ได้ถ่ายแบบสวยๆ ได้ทำกิจกรรมน่าสนใจเยอะแยะ ดูน่าสนุกดี มันทำให้เราเห็นว่าถ้าได้เข้ามาเป็นบันนี่น่าจะได้เพิ่มพูนทักษะ และประสบการณ์ดีๆ อีกมากมายค่ะ” เหมือนรู้ว่าผมแพ้รอยยิ้มแบบนี้ เพราะพอพูดจบเธอก็สบตาแล้วส่งยิ้มมาก่อกวนจนผมแทบไปไม่เป็น

ตอนที่คัดเลือกบันนี่แสดงความสามารถพิเศษอะไร ผมพยายามตั้งสติถามเธอต่อ

“เต้น เต้นมั่วด้วย ไม่มีท่าอะไรเลย” แล้วเธอก็หัวเราะให้กับภาพของตัวเองในวันนั้น “ไม่คิดว่าจะได้ด้วย เพราะว่าไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย ขณะที่เพื่อนคนอื่นน่าทึ่งมาก บางคนเล่นไวโอลิน บางคนก็ร้องเพลงเพราะ รอบแสดงความสามารถพิเศษนี่แหล่ะที่ทำเราเครียด กลับบ้านไปคุยกับแม่ว่า แม่ ทำยังไงดี หนูไม่มาแล้วได้มั้ย หนูไม่น่าจะได้อ่ะ แล้วอีกอย่างคือเราเป็นคนเกลียดการประกวดมาก ในชีวิตไม่เคยประกวดอะไรมาก่อนเลย ไม่ชอบความกดดัน ไม่ชอบการแข่งขันกับคนอื่น แม่บอกว่า อีกวันเดียวเอง ลองดูสักตั้งนะ โอเค เอาก็เอา” เธอหัวเราะเบาๆ

พอได้เป็นบันนี่เต็มตัวแล้ว ผมอยากรู้ว่ามันเหมือนกับภาพที่เธอเคยคิดไว้ในหัวมั้ย เธอนิ่งคิดสักครู่ก่อนตอบ

“เกินความคาดหวังนะ เพราะก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าการเป็นบันนี่จะต้องฝึกฝนอะไรมากมายขนาดนี้ มันเริ่มตั้งแต่ เรื่องเบสิกๆ อย่างการไหว้เลย เราต้องมาฝึกไหว้ใหม่ ไหว้ยังไงให้สวย แม้แต่การถ่ายแบบ ไม่ใช่แค่โพสท่าแล้วก็ถ่าย แต่เราต้องรู้จักการดึงอินเนอร์ของตัวเองออกมาด้วย มันเหมือนกับว่า ทุกๆ สิ่งที่เราเคยรู้มา เราต้องทิ้งสิ้งนั้นออกไป แล้วเปิดใจรับสิ่งใหม่ เรียนรู้อะไรใหม่ๆ จากที่นี่ ไม่น่าเชื่อนะ เวลาผ่านไปไม่กี่เดือนเอง แต่รู้สึกเหมือนอยู่เป็นปี และคิดว่าน่าจะเป็นปีที่เราสนุกกับมันทุกโมเม้นต์อ่ะ”

3 ธีมแต่งแฟนซีปาร์ตี้ให้เท่แบบไม่ขำ


สนับสนุนเนื้อหา


WHAT TO WEAR AT A FANCY PARTY

ปาร์ตี้ทั้งที คงต้องมีธีมแต่งแฟนซีบ้างอย่างแน่นอน แต่จะให้แต่งเป็นโก๊ะตี๋หรือจะคอสเพลย์เป็นหม่ำไปปาร์ตี้ก็คงไม่ใช่เรื่อง ไปดูกันว่าแต่งแฟนซีให้เท่แบบไม่ขำ เขาต้องแต่งกันอย่างไร



โจทย์: ธีมเด็กเนิร์ด นักวิทยาศาสตร์
คำตอบ: ไม่ครับ เราไม่แต่งเป็นเด็กติดเกมปากซอยที่ใส่กางเกงขาสั้นคีบแตะ แต่เราจะแต่งตัวเท่ปรอทแตกตามสไตล์เซอร์ไมเคิล เคน (Michael Caine) จากทศวรรษ
ที่ 60s ครับ
คีย์ลุค: สูทกระดุมคู่สีดำ เชิ้ตขาว เนกไทสลิมผูกแบบหลวมๆ ไว้ให้สาวแปลกหน้าขยับเล่น แล้วอย่าลืมแว่นตา ถ้างบไม่พอซื้อแว่นเท่ๆ จาก Tom Ford แว่นสายตากรอบใหญ่
อันละ 199 บาท ตามตลาดนัด
ก็โอเค  Jav Nurse



โจทย์: แต่งเป็นผู้ร้าย เป็นคนไม่ดี หรือเป็นพวกสัตว์ประหลาด
คำตอบ: อ๊ะๆ ช้าก่อน เราไม่แต่งเป็นคิงคองหรือฮัลค์
ตัวเขียวครับ แต่เราจะแต่งเป็นโจรโคตรเท่ ไคลด์ บาร์โรว์ โจรหล่อจากภาพยนตร์เรื่อง Bonnie and Clyde ปี 1967 ต่างหาก
คีย์ลุค: เชิ้ตอ๊อกซ์ฟอร์ดลายทางใส่คู่กางเกงขายาวบวก
เสื้อกั๊ก และมีหมวกปีกกว้างด้วย อ้อ… อย่าลืมปืนด้วยนะแต่จะให้ดีต้องเป็นปืนฉีดน้ำแนวเล่นสงกรานต์จะเด็ดสุด เพราะควรเอาไว้ฉีดสาวๆ ในงานให้หนาวเหน็บ



โจทย์: ฮิปปี้ ฮิปสเตอร์ เหล่าบุปผาชน
คำตอบ: นั่นแน่! อย่าแม้แต่จะคิดใส่เสื้อมัดย้อมสีๆ บวกวิกผมยาวแบบไม่มีสมอง ผู้ชายเท่ๆ อย่างพวกเราต้องฉลาดกว่านั้นนิดนึง นี่เลยแต่งตัวสไตล์จิมี่ เฮนดริกซ์ เท่ฝุดๆ
คีย์ลุค: ลุคนี้ต้องทุ่มทุนสร้างแบบหนังท่านมุ้ยนิดนึง เดินหาเชิ้ตลายแรงๆ มาใส่คู่กับผ้าพันคอสีสดแล้ว อย่าลืมหยิบบู๊ตหนังใส่คู่ชุดสูท ตกแต่งกระเป๋าเสื้อด้วยผ้าพันคอใหญ่ๆ แล้วปิด

Porn



पति विल्फ रसेल की मौत के बाद चार मिनट के अंतराल में पत्नी वेरा रसेल ने दम तोड़ दिया.लंदन: जीवनभर साथ निभाने की कसमें तो बहुत लोग खाते हैं, लेकिन इस कसम को अंतिम दम तक निभाने का मौका बहुत कम लोगों को मिल पाता है. हालांकि, लंदन एक के एक दंपत्ति ने इस कसम को पूरी शिद्दत से निभाते हुए सिर्फ चार मिनट के अंतराल में दम तोड़ दिया. पति डिमेंशिया की बीमारी से चल बसे, जबकि पत्नी ने इस गम में दम तोड़ दिया कि पति उसे पहचान नहीं पाए. डिमेंशिया की बीमारी से पीड़ित विल्फ रसेल (93) का एक केयर होम में निधन हो गया, जबकि उनकी 91 वर्षीय पत्नी वेरा की पास ही के एक अस्पताल में मौत हो गई.

यह कुदरत का करिश्मा ही था कि 71 वर्ष के वैवाहिक जीवन के बाद दोनों ने लगभग एक ही साथ इस दुनिया को अलविदा कहा. यहां यह उल्लेखनीय है कि वेरा को उनके पति की मौत की सूचना भी नहीं दी गई थी.

उनकी पोती स्टीफनी वेल्च ने बताया, "मेरे दादा को एक वर्ष पहले डिमेंशिया की बीमारी होने की बात पता चली. उन्हें दो महीने पहले एक केयर होम में भर्ती कराया गया. मेरी दादी हाल ही में उन्हें देखने वहां गईं तो बीमारी के कारण दादा उनको बिलकुल पहचान नहीं पाए. उसी दिन से दादी की तबीयत बिगड़ने लगी." वेल्च के अनुसार उनके दादा ने गत बुधवार को सुबह 6 बजकर 50 मिनट पर दम तोड़ा, जबकि दादी की मौत उनकी मौत के ठीक चार मिनट बाद हुई.

हालांकि उन्हें पता भी नहीं था कि उनके पति इस दुनिया में नहीं रहे. विल्फ उस वक्त 18 के थे और वेरा 16 की जब दोनों के बीच पहचान हुई. उसके बाद विल्फ दूसरे विश्व युद्ध के दौरान रॉयल एयर फोर्स के साथ उत्तरी अमेरिका और इटली चले गए. वहां से लौटने के बाद विल्फ ने वेरा से विवाह कर लिया और दोनों जीवनभर हर तरह के दुखसुख में एक दूसरे का साथ निभाते रहे और अंतिम सफर में भी विल्फ वेरा का हाथ थामकर उसे अपने साथ ले गए.

(हेडलाइन के अलावा, इस खबर को एनडीटीवी टीम ने संपादित नहीं किया है, यह सिंडीकेट फीड से सीधे प्रकाशित की गई है।)

From Dateline Pacific, 6:00 am on 20 March 2017
Share this

Share on Twitter
Share on Facebook
Share via email
Share on Google Plus
Share on Reddit
Share on Linked In


Governments of Australia and Papua new Guinea have failed the people of Manus, according to the local MP.

Ronnie Knight's comment comes as PNG's Supreme Court has found that the regional processing centre for asylum seekers on Manus is technically "closed".

The court has been seeking direction on compliance by the governments of PNG and Australia with its ruling last April that holding around 900 men there against their will was illegal.

Accepting a submission from PNG's government, Chief Justice Sir Salamo Injia stated the centre had been closed and that refugees and asylum seekers on Manus were now accommodated at the naval base the centre was built on.

Mr Knight told Johnny Blades the ruling was somewhat bizarre.
Listen duration3′ :27″
Add to playlist
Download
Download as Ogg
Download as MP3
Play Ogg in browser
Play MP3 in browserListen


The Manus Island detention centre. Photo: Behrouz Boochani
Tags:
Manus
Papua New Guiena

TRANSCRIPT

RON KNIGHT: I think the court has been misled. Some fancy words have taken place or something because they make it sound like they closed down the camp and they moved everybody to the naval base to keep them there. In fact, the camp is in the naval base and they're still living in that same camp.

JOHNNY BLADES: So, it's just a technicality that they're talking about, isn't it? But really, on the ground, you're saying they're still held against their will, so to speak?

RK: Well, you know, on the island, even though the gates are open, they've got no access to leave the island on their own free will or go back to where they want to. They're still being held in detention if you look at it that way. Their rights are still being restricted. One of our ministers, honorable Charles Able, has said that by October everything should be shut down. Ferrovial who runs the camp says they won't be working past their contract in October. Unless they are bringing another contractor in and continue with it in a more open way of [running] the camp. We don't know what's happening. Australia seems to have passed the buck to PNG - they were silly enough to accept the responsibility and Australia's keeping mum about it - they're not saying anything. October is too late for them to be moved off Manus, our people right now, after the latest rape of a 10 year old, our people are not happy and I expect things to blow up any time.Porn Italian

JB: You've been warning for years now actually haven't you about the social consequences of having this centre, this arrangement, in your province. Did anyone in the government respond to you?

RK: Every time I raised it in Parliament - they were saying it was very true and all this shit... they say everything else that happens - yes that's true and we'll get people to look into it and that's it - nothing happens. And if you look at what I've said over the years, everything is fallen into place, everything has come to pass - I predicted that they would be let out into the community and that these situations would happen - they told me ' no, nobody will have any interaction with the community, everybody will be locked up behind gates' - what's happening today? I predicted the rise of rapes and all that sort of stuff - now it's happening. It was a contract signed, sealed and delivered. We delivered on our end. They have failed miserably to deliver on their end. They haven't protected my people. They put my community at risk. It's a shameful thing - we're looking now at organising some of our senior Manus lawyers into working on a lawsuit, a class action, to make them responsible for what's happening there.

f you’re a wine lover, the idea of spending four days in one of the most beautiful wine regions in the world surrounded by like-minded travelers with only one goal (drink all the wine) might just top your wish list. Well, the Sonoma County Winegrowers sees your travel goals and raises you one annual wine camp.

Over three and a half days, campers travel all over Sonoma County to visit multiple wineries, learn about the winemaking process, pick their own grapes, and of course, taste a lot of wine. Whether you’re a retired sommelier or a tried-and-true boxed wine aficionado, an immersive travel experience like this is one to seriously consider. Here’s why.
EVEN WITHOUT ALL THE WINE, SONOMA COUNTY IS VERY BEAUTIFUL.



An hour north of San Francisco, the sprawling area known as California Wine Country has been indulging oenophiles for generations. Glitzy Napa has long attracted most of the attention, but in recent years, low-key Sonoma County has seen an upswing in visitors. Stretching east from the Pacific coast to Napa Valley and north from Petaluma, Sonoma County encompasses hundreds of gorgeous wineries in the Russian River, Dry Creek, and Alexander Valleys as well as hip towns like Santa Rosa and Healdsburg (Sonoma itself is also a town in Sonoma Valley, but it’s just a small slice of the region). Bright blue skies, rolling green vineyards, and towering mountains make set the beautiful scene, while boutique hotels, hip restaurants, and luxurious spas help add to the quaint and relaxing atmosphere.
YOU’LL BE GOING AT THE BEST TIME OF THE YEAR.

Harvest time in any wine-growing region is a special experience: the warm autumn air hums with the activity of the workers, who often rise in the middle of the night to pick the grapes before the sun warms them. The vineyards are soaked in greens and oranges, and sunsets are magnificent.

The grape harvest happens in the late summer and early fall in Sonoma County, and that’s when the wine camp takes place every year (yes, there’s only one session a year, and yes, it sells out months in advance). Despite the busyness of the season, vineyard owners and wine growers welcome campers with open arms, eager to show off their vines, their wines, and get some free grape-picking help from the campers.
DUH, YOU’LL GET TO TRY SOME AMAZING WINE.



This is a wine camp, which means it’s a wine-tasting camp, so yes, be prepared to drink a lot of wine. A typical itinerary has campers visiting about four wineries a day, and each offers at least four wines to try. Of course, you’re more than welcome to just take a sip or spit after you’ve sampled (or to refrain from drinking at all if you’re not into a wine or just need a break). The camp organizers promote responsible drinking (and honestly, with all the food you eat, it can be hard to get a buzz going), and offer firm reminders that wine camp is a marathon, not a sprint.

But as long as you have these responsible drinking rules in mind, get ready to taste some of the best Pinot Noirs and Chardonnays in America (Sauvignon Blancs, Grenaches, and Zinfandels also often appear on Sonoma County tasting menus). An added bonus of the camp itself is that many of the experiences are offered at wineries that don’t have tasting rooms or host tastings by appointment only, so you’ll get to taste some wines that aren’t often shared with the general public.
BUT YOU DON’T NEED TO BE AN OENOPHILE TO ENJOY IT.

One of the most refreshing things about wine camp is the complete lack of pretension. Campers tend to be a mix of connoisseurs and novices, and no one, not even the winemakers themselves who obviously know a heck of a lot about wine, make you feel stupid for asking questions or not quite getting that aroma of cherry in your Pinot. At the seated dinners and lunches, the vineyard owners and winemakers sit alongside campers, creating an intimate experience of getting to know the people in the industry and the chance to ask them questions to expand your own knowledge of wine.
OH, AND WE CAN’T FORGET ABOUT THE FOOD.


Porn Parody
Speaking of those lunches and dinners: Sonoma County takes the farm-to-table movement very seriously (some of the foremost leaders of the movement got their start in California Wine Country), and the food served at the camp is some of the region’s best. While it’s mostly caterers providing the food rather than restaurants, you’ll still get to sample an amazing selection of local fruits, vegetables, meat, cheeses, and seafood.

While almost every winery the camp visits changes each year, along with the menus, a cooking class is almost always included, where campers get guidance from Sonoma County chefs on how to make locally sourced Sonoma County recipes. All of these food experiences are naturally paired with wine in order to enhance the flavors of both.
SONOMA COUNTY IS THE MOST SUSTAINABLE WINE REGION IN AMERICA.

Sonoma County is currently on track to have 100% of its wineries sustainable by 2019, a feat that will make it the first wine region in the nation to do so. Like with all farming, growing grapes and making wine leaves an environmental footprint, but there are ways for vineyards and wineries to ensure they’re leaving as small a footprint as possible. Sonoma County has embraced this initiative since 2014 and has made incredible strides in the past few years to make sure they meet the 2019 goal. Sustainability for wine growers means three things: being socially responsible in how they treat employees, neighbors, and the overall community; being environmentally conscientious with farming and winery practices; and being economically viable.
YOU GET TO SEE AGRICULTURE IN ACTION.



As the sustainability program might hint at, Sonoma County doesn’t just consider itself in the wine-making business—it’s in the farming business. In fact, the wine camp itself is actually advertised as a grape camp, emphasizing the fact that it’s really about learning where our wine comes from. It’s not just wine-tasting; nearly all the vineyards you’ll visit are actually working farms, and activities throughout the camp include grape picking, grape crushing, and blending seminars, meant to put you closer to the wine you drink.
YOU’LL HEAR SOME AMAZING STORIES.

Is it really possible that every vineyard and winery in Sonoma County has an interesting story to tell? Maybe not, but the Winegrowers Association does a great job of selecting ones for that camp that do. Whether it’s a sixth-generation family winery or a wine-loving couple who worked for years to finally open their own vineyard, it seems every place you visit has a history or is making history, and the owners are more than happy to share these stories.
LIKE WITH ANY GOOD CAMP, YOU’LL ACTUALLY LEARN SOMETHING.



Instead of friendship bracelets and campfire songs, you’ll leave your wine camp experience armed with plenty of knowledge about the wine-making industry, viticulture, and wine-tasting. While you might need to study a little bit more before diving into that sommelier certification test, there’s no doubt that at the end of the three days, you’ll come out with a slightly refined palate and more confidence to select the wine at even the fanciest restaurant.

Plan Your Trip with Fodor’s Sonoma County Guide


Photo Credits: Amanda Sadlowski